ว่านนางตัด (จุฬาภรณ์ 9)

9 เมษายน 2565 (ผู้ดูแลระบบ) ฐานข้อมูลพันธุ์ไม้ในพื้นที่จุฬาภรณ์พัฒนา 9

ชื่อวิทยาศาสตร์        :    Labisia pumila (Blume) F.-Vill. & Naves

ชื่อวงศ์                  :    MYRSINACEAE

ชื่อพื้นเมือง             :    กาจิปาตีมะห์ (มลายู-ยะลา) พิลังสา ว่านนางสัด (สตูลและตรัง)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก

      ลำต้น มักเลื้อยทอดตามพื้นดิน ยาว 30-40 เซนติเมตร

      ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรีแกมรูปใบหอก กว้าง 5.0-6.0 เซนติเมตร ยาว 20-30 เซนติเมตร โคนใบสอบเรียว ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม ผิวใบเรียบ แผ่นใบหนา เส้นกลางใบเห็นเป็นสันนูนชัดเจน ก้านใบสั้นคล้ายเป็นกาบหุ้มครึ่งลำต้น

      ดอก เป็นดอกช่อกระจะ ออกตามซอกใบ ดอกสีขาว ช่อดอกยาว 5.0-8.0 เซนติเมตร ก้านดอกยาว 1-2 เซนติเมตร ใน 1 ช่อจะมีดอกอยู่ราว ๆ 7 ดอก กลีบดอกเป็นรูปสามเหลี่ยม มีจุดโปร่งใสกระจาย สีกลีบดอกเป็นสีขาวหรือขาวอมชมพู และมีผลทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4 มิลลิเมตร ผิวด้านนอกมีต่อมเรียวยาวกระจาย

      ผล ผลเดี่ยว ออกเป็นช่ออัดแน่นเป็นผลสด ทรงกลม ผิวเรียบ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.3-0.7 เซนติเมตร ผลสดสีเขียว เมื่อสุกสีแดงเข้ม

ช่วงเวลาการออกดอก พฤษภาคม-กันยายน

แหล่งที่พบ ขึ้นเป็นกลุ่มตามร่มไม้ขนาดใหญ่ตามป่าดิบชื้น มีร่มเงา ตามริมลำธารหรือพื้นที่ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลราว 100-800 เมตร

การขยายพันธุ์ ปักชำต้น

ประโยชน์

         อาหาร ผสมเป็นอาหารเสริมเพื่อดูแลสุขภาพสตรี                                                                     

         สมุนไพร

         - ราก ใบ และลำต้น ไปตากแดดให้แห้ง จากนั้นนำมาต้มกับน้ำในปริมาณ 1 ลิตร ต้มนาน 30 นาที เสร็จแล้วให้กรองเอาแต่น้ำมาดื่มเป็นชาได้ตลอดเวลา โดยน้ำว่านจะมีรสฝาด ไม่ขม และมีกลิ่นหอมรับประทานง่าย สามารถดื่มได้ 3 เวลา ทั้งเช้า กลางวัน และเย็น มีสรรพคุณในการปรับสมดุลเลือดลมในร่างกายให้ไหลเวียนดี บรรเทาอาการปวดและขับประจำเดือน แก้ฝ้าจากสาเหตุประจำเดือนมาไม่ปกติ ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็ว ช่วยกระชับมดลูก แก้ปัญหามดลูกหย่อนคล้อย เพิ่มการไหลเวียนโลหิต แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ป้องกันมะเร็ง เสริมสมรรถภาพทางเพศให้สตรี

         - ทั้งต้นตำให้ละเอียด ใช้ทาท้องแก้ปวดท้อง

         ไม้ดอกไม้ประดับ เนื่องจากทรงต้นและผลมีความสวยงามสามารถปลูกเป็นไม้ประดับ